วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หงส์ใจชื้น "โยวาโนวิช" ยันมาตามนัด

เหล่า "เดอะค็อป" สบายใจกันได้เมื่อ มิลาน โยวาโนวิช กองหน้าทีมชาติเซอร์เบียยืนยันจะไม่กลับลำฉีกสัญญาค้าแข้งกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ในศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แน่นอน

มิลาน โยวาโนวิช หมดสัญญากับ สตองดาร์ด ลีแอช สโมสรในลีกเบลเยียม และได้เซ็นสัญญาล่วงหน้าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อมาค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล ทว่ามีกระแสทำนองว่าดาวเตะวัย 29 ปี ไม่ประสงค์เก็บกระเป๋ามาพำนักในถิ่นแอนฟิลด์แล้ว เนื่องจาก "หงส์แดง" ตัดสินใจแยกทางกับ ราฟาเอล เบนิเตซ ทำให้ โยวาโนวิช อยากตามกุนซือชาวสเปนไปทำงานร่วมกันที่รัง "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งเซเรีย อา อิตาลี มากกว่า

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด โยวาโนวิช ยันชัดกับ "Nieuwsblad" สื่อแห่งหนึ่งว่าเดือนกรกฎาคมนี้ จะได้ฤกษ์ไปร่วมทัพ ลิเวอร์พูล อย่างเป็นทางการ "ผมกำลังจะไปเล่นให้ลิเวอร์พูล ผมเซ็นสัญญากับพวกเขาไว้ 3 ปี ต้องย้ำอีกครั้งว่านี่ไม่ใช่สัญญาล่วงหน้า เป็นสัญญาที่เซ็นกันจริงๆ และการแยกทางไปของ เบนิเตซ ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงใดๆ ผมยังคงยึดกับสัญญาที่เซ็นไว้กับบอร์ดบริหารลิเวอร์พูล ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี"

"ตอนนี้ผมกำลังทำเรื่องเพื่อให้ได้วีซ่าในอังกฤษ สัปดาห์หน้าผมก็จะได้ใบอนุญาตทำงาน (เวิร์คเพอร์มิต) ทุกอย่างดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง สองปีมานี้ผมเล่นให้ทีมชาติเซอร์เบีย 75 เปอร์เซ็นต์ จากนี้ต่อไปผมคงจะมองหาบ้านสักหลังในลิเวอร์พูล วันที่ 14 หรือ 15 ก.ค. ผมจะไปร่วมทีมในเทรนนิงแคมป์ที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่วันพฤหัสบดีนี้ ผมอยากเข้าโปรแกรมฝึกซ้อมเป็นการส่วนตัว อยากแสดงให้พวกเขาเห็นว่าผมมีคุณค่ามากน้อยเพียงใดสำหรับสโมสร" โยวาโนวิช ทิ้งท้าย

สำหรับ โยวาโนวิช ติดโผ เซอร์เบีย ไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ โดยทำประตูชัยให้ทีมเฉือน "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี 1-0 อย่างไรก็ตาม 3 แต้มไม่ดีพอที่จะพาเซิร์บ ทะลุเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังจากทีมพ่ายให้ทั้ง "ดาวดำ" กานา และ "จิงโจ้" ออสเตรเลีย จึงรั้งบ๊วยกลุ่มดี ตกรอบแรกไปตามระเบียบ

สเคอร์เทลสุดภูมิใจ สโลวาเกียไปได้ไกล


แม้ว่าจะตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการพ่ายต่อ "อัศวินสีส้ม" ทีมชาติฮอลแลนด์ไป 2-1 แต่ มาร์ติน สเคอร์เทล กองหลังอาร์ดคอร์ของสโลวาเกีย และ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ก็ยังรู้สึกภูมิใจที่ชาติเล็ก ๆ อย่างพวกเขาสามารถสร้างผลงานได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้

สโลวาเกีย เข้าร่วมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศ แต่ผลงานกลับไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าทีมอื่นๆ เลย โดยในรอบแรก พวกเขาก็สร้างผลงานสุดยอดด้วยการคว่ำ อิตาลี แชมป์เก่าตกรอบแรกมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม เส้นทางของสโลวาเกียก็จบลงในรอบที่ 2 เท่านั้น เมื่อต้องโคจรมาพบกับทีมแกร่งอย่าง ฮอลแลนด์ แต่แค่นี้ สเคอร์เทล ก็ปลิ้มกับผลงานจนยิ้มไม่หุบแล้ว

"มันจบแล้ว ฟุตบอลโลกสำหรับเรามันจบลงแล้ว" สเคอร์เทล บอก

"น่าเสียดายที่พวกเราเองก็มีโอกาสที่ดีที่จะชนะฮอลแลนด์"

"พวกเรารู้สึกเศร้านะกับผลการแข่งขัน แต่เราก็ยังรู้สึกภูมิใจ ผมเองก็ภูมิใจมากจริงๆ กับสิ่งที่เราฝากผลงานเอาไว้"

"พวกเราแสดงให้คนทั้งโลกต้องหันมามองพวกเรา และ ผมก็ภูมิใจในเพื่อนร่วมทีมทุกคนด้วย"

"ผมภูมิใจที่เป็นชาวสโลวัก ผมภูมิใจที่ได้มาอยู่ในทีมชุดนี้ ที่ได้มีโอกาสลิ้มรสกับความสำเร็จที่หอมหวาน"

"ฮอว์ค-อาย" เสนอติดกล้องในพรีเมียร์ให้ฟรี


พอล ฮอว์คกิ้นส์ผู้อำนวยการขอนวัตกรรมฮอว์ค อายได้เสนอที่จะติดตั้งกล้อง ‘ฮอว์ค อาย’ ให้แก่ทุกสนามในเวทีพรีเมียร์ ลีกแบบฟรี ๆ พร้อมการันตีความถูกต้อง แม่นยำ 100%

โดยสาเหตุที่ติดตั้งให้ฟรีนั้น ฮอว์คกิ้นส์กล่าวว่า รายได้ที่ได้จากสปอนเซอร์นั้นมากกว่ามูลค่าในการติดตั้ง และเชื่อมระบบเสียอีก ซึ่งค่าติดตั้งนั้นจะอยู่ระหว่าง 125,000 ปอนด์ ถึง 250,000 ปอนด์

"เราพร้อมจะติดกล้องฮอว์ค อายให้ในทุกสนามของพรีเมียร์ ลีกแบบฟรี ๆ เลยถ้าหากเราได้สิทธิ์ขายสปอนเซอร์" เขากล่าว

"มันก็เป็นรูปแบบเชิงพาณิชย์ ซึ่งเรื่องเงินมันไม่น่าจะเป็นประเด็น"

"ขอยกตัวอย่างในเทนนิสนะ โรเล็กซ์จ่ายให้กับบรรดาสโมสรอังกฤษทั้งหมด มากกว่าที่สโมสรทั้งหมดจ่ายให้กับเราซะอีก!"

ก่อนหน้านี้แบล็ตเตอร์ได้ออกมาบอกว่า ‘ฮอว์ค อาย’ นั้นจะไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาในวงการฟุตบอลได้ เพราะมันเป็นเพียงกล้องตัวหนึง และกล้องก็ไม่สามารถมองเห็นทุกอย่างได้ แต่ฮอว์คกิ้นส์ก็ได้ปฏิเสธคำอ้างดังกล่าว

"มันถูกต้อง แม่นยำ 100% ฮอว์ค-อายได้รับการทดสอบอย่างไม่เป็นทางการโดยพรีเมียร์ ลีก และบอร์ดของเอฟเอแล้ว ซึ่งในทุกการเทสผลก็ออกมาแล้วว่ามันเวิร์ค"

เค้าท์กระหายอยากวัดเกือกแซมบ้าแล้ว

เดิร์ก เค้าท์ ดาวเตะดูราเซลล์ของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล และทีมชาติฮอลแลนด์ กระหายอยากวัดเกือกกับ "แซมบ้า" ทีมชาติบราซิล เต็มทนแล้ว

ทีมชาติฮอลแลนด์ของเค้าท์ จะมีโปรแกรม พบกับ บราซิล ในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ ในวันศุกร์ แม้จะเป็นเกมที่หนัก แต่เจ้าตัวก็ยังเชื่อว่าทีมชาติของเขานั้นมีโอกาสไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อทีมฟลายอิ้งดัตช์แมนเพิ่งทำสถิติ ไม่แพ้ใครมาเป็นนัดที่ 23

"พวกเราไม่อยากรอที่จะเล่นกับพวกเขาแล้ว" เค้าท์ โว

"พวกเราต้องการให้โลกรู้ว่าเราสามารถชนะทีมอย่างบราซิลได้"

"ผมคิดว่าพวกเรามีโอกาสที่จะชนะได้ทุกทีมในโลกตอนนี้ พวกเราต้องการแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของพวกเรา"

"พวกเราชนะมาทุกเกมในรอบคัดเลือก แต่ทุกเกมในฟุตบอลโลกตอนนี้ ถ้ามันเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็คงจะดีมาก"

"พวกเราแฮปปี้กับผลการแข่งขัน ที่ผ่านมา สิ่งเดียวที่พวกเรากำลังนับกันอยู่ตอนนี้ก็คือ การเก็บชัยชนะไปเรื่อยๆ และนั่นแหละคือสิ่งที่เราจะทำ"

"พวกเรามีความสุขมาก ๆ กับช่วงเวลานี้ แต่เราจะต้องไม่ประมาท และ ทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงสปิริตของพวกเรา"

ขายมั้ย? ม้าลายสนเซ้งริเอร่า 4 ล้านปอนด์


อัลเบิร์ต ริเอร่า ปีกขบถของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เนื้อหอม เมื่อล่าสุด "ไอ้ม้าลาย" ยูเวนตุส ทีมดังแห่งซีรี่ย์ อา สนใจจะดึงตัวไปร่วมทีมด้วย

ดาต้าสปอร์ต รายงานว่า ยูเว่ เตรียมจะเทงบ 4 ล้านปอนด์เพื่อเป็นค่าตัวของปีกทีมชาติสเปน

ริเอร่า เคยมีปัญหาในสมัยที่ ราฟา คุมทีมอยู่ ทำให้เจ้าตัวโดนดร็อปดองยาว จนทำให้พลาดโอกาสไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย อย่างไรก็ตามแม้กุนซือคู่กรณีจะไม่อยู่แล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ประกาศชัดเจนว่าจะขออยู่ค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์

สำหรับค่าตัว 4 ล้านปอนด์ที่ ยูเว่ จะเสนอเข้ามาให้พิจารณานั้น ต้องถือว่าน้อยกว่าที่ทางทีมหงส์แดงคาดเอาไว้ถึง 2 ล้านปอนด์ โดยเดิมทีนั้น ทีมหงส์แดงมีแผนจะปล่อย ริเอร่าอยู่แล้วในช่วงตลาดเปิดเดือนมกราคมด้วยค่าตัวราว 6 ล้านปอนด์

ราฟาจ้องดึง 3 เด็กหงส์มางู มีชื่อลูกรักด้วย

ยุทธการตามล่าเด็กเก่ายังไม่จบง่ายๆ สำหรับ ราฟา เบนิเตซ เมื่อล่าสุดสื่อในแดนมะกะโรนีตีข่าวว่า บอสเลือดสเปนมีแผนจะดึง 3 ดาวเตะของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมเก่าไปร่วมรัง "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน

สปอร์ตมีเดียเซ็ท สื่อที่มีฐานที่มั่นในเมืองมิลาน รายงานว่า เบนิเตซ จ้องที่จะดึง ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ , เกล็น จอห์นสัน และ กองกลางเลือดบราซิเลียนอย่าง ลูคัส เลว่า ลูกรักไปทำงานร่วมกันในถิ่นจูเซ็ปเป้ เมียซซ่า

สื่อดังกล่าวอ้างว่าจากการที่ทีมงูใหญ่เตรียมจะปล่อยตัว ไมค่อน แบ็คจอมบุกไปให้กับ เรอัล มาดริด ในมูลค่า 30 ล้านปอนด์ ทำให้พวกเขาต้องหาตัวแทนคนใหม่ ซึ่งราฟาก็มองว่า เกล็น จอห์นสัน คือตัวเลือกที่ใช่ที่สุด

นอกจากจีเจแล้ว แอ็กเกอร์ เองก็จะถูกดึงมาแทนที่ มาร์โก มาเตรัซซี่ ที่เริ่มโรยรา ส่วนในรายของ ลูคัส นั้นแม้จะไม่ได้มาแทนที่ใคร แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า หากมี ราฟาที่ไหน ต้องมีลูคัส ที่นั่นด้วย

ราชันขน 20 ลป.ล่าหัวขิงเสริมกลาง

เรอัล มาดริดเตรียมเดินหน้ายื่นข้อเสนอ 20 ล้านปอนด์ให้แก่ลิเวอร์พูล เพื่อปล่อยตัวสตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมพลังไดนาโมออกมา

The Times รายงานว่า ‘ราชันชุดขาว’ พร้อมที่จะยื่นข้อเสนอ 20 ล้านปอนด์เพือล่าตัวเจอร์ราร์ด มาร่วมทีม หลังจาก ‘หัวขิง’ และทีมชาติอังฤษกระเด็นตกรอบฟุตบอลโลกไปเรียบร้อยแล้ว

กาก้ามิดฟิลด์เพลเมกเกอร์เพิ่งจะออกมาบอกให้เจอร์ราร์ด ย้ายมาเล่นร่วมกันที่มาดริด ในขณะที่โจเซ่ มูริญโญ่กุนซือป้ายแดงของ ‘ราชันชุดขาว’ ก็ยอมรับว่าเขาต้องการตัว ‘หัวขิง’ จริง

มูริญโญ่เพิ่งจะซิวตัวอังเกล ดิ มาเรียปีกตัวจี๊ดของเบนฟิก้ามาร่วมทีมหมาด ๆ และกำลังขอให้ฟรอเรนติโน่ เปเรซประธานสโมสรเรอัล มาดริดให้ดึงตัวเจอร์ราร์ด มาร่วมทีมให้จงได้

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

“ตอร์เรส” ตัดสินอนาคตหงส์หลังบอลโลก

เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงลิเวอร์พูล เชื่อว่า การตัดสินใจอำลาตำแหน่งผู้จัดการทีม “หงส์แดง” ของ ราฟาเอล เบนิเตซ เป็นเรื่องที่ดีต่อทุกฝ่าย นอกจากนี้ ดาวยิงวัย 26 ปี ยังปฏิเสธที่จะพูดถึงอนาคตของตนเองในถิ่นแอนฟิลด์ จนกว่าจะสิ้นสุดฟุตบอลโล 2010 ที่แอฟริกาใต้

เบนิเตซ อำลาจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล หลังเจอความกดดันจากการพาทีมทำผลงานไม่น่าประทับใจด้วยการจบอันดับ 7 ของตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนที่กุนซือชาวสแปนิช จะไปรับงานคุมทีม อินเตอร์ มิลาน แชมป์กัลโช เซเรีย อา อิตาลี

ด้าน ตอร์เรส กล่าวถึงการลาออกของ เบนิเตซ ว่า ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด “ตรงจุดนี้ ผมคิดว่า การลาออกของเขาเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย เบนิเตซ คว้าแชมป์มาทุกอย่าง และเมื่อปีที่แล้วสโมสรเรียกร้องจากเขามากเกินไป”

ปัญหาความขัดแย้งภายในถิ่นแอนฟิลด์ และสถานภาพทางการเงิน อันไม่มั่นคง ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องเจองานหนักในการรั้งบรรดาผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ ตอร์เรสเป็นคนหนึ่งที่ตกเป็นข่าวกับสโมสรยักษ์ใหญ่อื่นทั้ง บาร์เซโลนา เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี

เมื่อถูกถามถึงอนาคตของตนเองกับ ลิเวอร์พูล ก่อนหน้าที่จะนำ สเปน พบกับ โปรตุเกส ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 2010 ในวันอังคารที่ 29 มิถุนายนนี้ ตอร์เรส ตอบว่า “เรายังไม่มีโค้ชและสโมสรจะบอกเราเกี่ยวกับสถานการณ์ของทีมหลังจากฟุตบอลโลก ตอนนี้สิ่งที่ผมต้องการ คือ การเอาชนะ โปรตุเกส ก่อน”

แบล็ตเตอร์เซย์ซอรี่-เผยทบทวนใช้เทคโนฯ

ทีมชาติอังกฤษขยับอารมณ์จาก"เดือด"เป็น"อุ่นมาก"หลังเซปป์ แบล็ตเตอร์ประธานฟีฟ่าออกโรงกล่าวขอโทษจากเหตุการณ์ลูกข้ามเส้นในเกมพบเยอรมันแถมแย้มว่าอาจทบทวนเรื่องการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในเกมฟุตบอลอีกด้วย

เหตุการณ์อัปยศในฟุตบอลโลกหนนี้เกิดขึ้นมากมายไม่วาจะเป็นลูกโขกล้ำหน้าของคาร์ลอส เตเบซในเกมที่เม็กซิโกแพ้อาร์เจนติน่าในขณะที่ก่อนหน้านี้เป็นลูกยิงข้ามเส้นของแฟร็งค์ แลมพาร์ดขโมยซีนขึ้นหน้าหนึ่งเนื่องจากเป็นจุดพลิกผันทำให้อังกฤษต้องแพ้เยอรมัน 4-1 ในครึ่งหลังโดยแบล็ตเตอร์ออกมากล่าวกับสื่อที่โยฮันเนสเบิร์กด้วยท่าทีที่อ่อนลงอย่างชัดเจน

"มันชัดเจนว่าหลังสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในฟุตบอลโลกหนนี้มันคงเป็นเรื่องไร้สาระแน่หากไม่นำประเด็นเทคโนโลยีเข้าในที่ประชุมบอร์ดสมาคมนานาชาติในเดือนกรกฏาคมนี้"

"โดยสวนตัวแล้วผมเองก็เสียใจเมื่อคุณเห็นผู้ตัดสินทำผิดพลาดแต่มันไม่ใช่การสิ้นสุดของรายการนี้หรือจุดจบของฟุตบอล เรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นได้"

"สิ่งเดียวที่ผมสามารถทำได้คือเมื่อวานผมได้คุยกับสองตัวแทนจากสองสมาคม(อังกฤษและเม็กซิโก)เกี่ยวข้องกับความผิดพลาดของผู้ตัดสินโดยตรง ผมเอ่ยปากขอโทษพวกเขาและผมเข้าใจว่าพวกเขาไม่แฮปปี้และผู้คนก็รุมด่ากันอย่างหนัก"

"เราจะนำเทคโนโลยีเข้าที่ประชุมและมีโอกาสครั้งแรกนี้ในการประชุมเดือนกรกฏาคม"

แบล็ตเตอร์กล่าวเสริมต่อว่า"มันเคยเกิดขึ้นเมื่อปี 1966 จากนั้นก็อีก 44 ปีต่อมาแม้ว่ามันจะไม่เหมือนกันเป๊ะก็ตาม"

"ผมได้ขอโทษอังกฤษและเม็กซิโก ทางอังกฤษตอบกลับมาว่า'ขอบคุณและยอมรับว่าคุณสามารถชนะได้และก็แพ้ได้' ส่วนทางเม็กซิโกก็ก้มหน้ายอมรับ"

ราฟาสะอึก!ค่าตัวมาสเค 2 พันล้าน

ราฟาสะอึก!ค่าตัวมาสเค 2 พันล้าน

ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวตั้งค่าตัว ฮาเวียร์ มาสเคราโน กองกลางอาร์เจนไตน์ มหาโหดถึง 2,000 ล้านบาท หลังมีข่าว อินเตอร์ มิลาน อยากได้ไปเสริมทัพช่วงปิดซีซั่นนี้

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ตกเป็นข่าวว่าตั้งค่าตัว ฮาเวียร์ มาสเคราโน มิดฟิลด์ทีมชาติอาร์เจนตินา เอาไว้สูงถึง 50 ล้านยูโร (ประมาณ 2,000 ล้านบาท) เพื่อกันท่า "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา ที่หวังจะคว้าตัวไปเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ จากการรายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา

มีรายงานว่า ราฟาเอล เบนิเตซ เป็นผู้ตั้งราคาค่าตัว มาสเคราโน เอาไว้อย่างมหาศาล ในสมัยที่คุมทีมในถิ่นแอนฟิลด์ เนื่องจากไม่ต้องการเสียนักเตะ ไป อย่างไรก็ตาม เวลานี้เทรนเนอร์ชาวสเปนไปคุมทีม อินเตอร์ และต้องการได้กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา มาร่วมทีม และลิเวอร์พูล ก็ยังคงราคาเดิมที่เขาตั้งเอาไว้

มีการคาดหมายว่า ถึงแม้ ลิเวอร์พูล จะไม่ต้องการเงินถึง 50 ล้านยูโร แต่พวกเขาก็จะไม่ยอมปล่อย มาสเคราโน ออกไปในราคาต่ำกว่า 30 ล้านยูโร (ประมาณ 1,200 ล้านบาท) แน่นอน และ บาร์เซโลน่า ยอดทีมแห่งสเปน ก็พร้อมที่จะจ่ายเงินจำนวนนั้น แต่ อินเตอร์ ก็หวังว่าอดีตแข้ง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จะปฏิเสธข้อเสนออื่นๆ นอกเหนือจากการกลับมาร่วมงานกับ เบนิเตซ อีกครั้ง

รมต.ผู้ดีโร่ขอโทษพาดพิงโศกนาฎกรรมฮิลส์โบโร่


เจเรมี่ ฮันท์ รัฐมนตรีวัฒนธรรมเมืองผู้ดี รีบออกมาขอโทษกลุ่มครอบครัวแฟนบอล "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่เสียชีวิตจากเหตุโศกนาฏกรรมที่ฮิลส์โบโร่ หลังพูดพาดพิงระหว่างแสดงความชื่นชมความประพฤติของกองเชียร์อังกฤษที่เดินทางมาให้กำลังใจขุนพล "สิงโตคำราม" ในศึกฟุตบอลโลก ที่แอฟริกาใต้

เจเรมี่ ฮันท์ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของอังกฤษ ออกมากล่าวขอโทษกลุ่มครอบครัวแฟนบอลที่เสียชีวิตจากเหตุโศกนาฏกรรมที่ฮิลส์โบโร่ หลังจากให้สัมภาษณ์พาดพิงระหว่างเดินทางมาชมศึกเวิลด์ คัพ 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้

ฮันท์ แสดงความพอใจกับพฤติกรรมของกองเชียร์อังกฤษที่ไม่มีการถูกจับกุมในการทำผิดที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอล ระหว่างติดตามมาให้กำลังใจขุนพล "สิงโตคำราม" ที่ดินแดนกาฬทวีป และบอกว่ารู้สึกโล่งใจที่เหตุโศกนาฎกรรมจากเฮย์เซล และฮิลส์โบโร่ ถูกลืมเลือนไปแล้ว จนทำให้พวกเขามีโอกาสสูงในการชิงเจ้าภาพเวิลด์ คัพ 2018 ที่กำลังจะตัดสินในปลายปีนี้

ทำให้ มาร์กาเร็ต เอสพินัลล์ ประธานกลุ่มครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่ฮิลส์โบโร่ ที่ต้องสูญเสีย เจมส์ ลูกชายวัย 18 ปีไปจากโศกนาฎกรรมครั้งนี้ ออกมาประณามรัฐมนตรีรายนี้ว่า "เป็นคำพูดที่น่าละอายอย่างที่สุด หลังจากเวลาหลายปีที่เราต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ฉันรู้สึกโกรธมากที่เขาแสดงให้เห็นถึงการเพิกเฉยข้อเท็จจริงที่มีอยู่"

ฮันท์ ต้องรีบกล่าวขอโทษ พร้อมอธิบายการให้สัมภาษณ์ของเขาว่า "ผมรู้ว่าความวุ่นวายของแฟนบอลไม่ได้มีส่วนกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายในเดือนเมษายน 1989 ผมต้องการกล่าวคำขอโทษต่อแฟนบอลลิเวอร์พูล และครอบครัวของผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจากโศกนาฏกรรมที่ฮิลส์โบโร่ ถ้าหากคำพูดของผมสร้างความไม่พอใจใดๆ"

โศกนาฎกรรมที่สนามฮิลล์สโบโร่ ของสโมสรเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ เกิดขึ้นระหว่างศึกเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ระหว่างลิเวอร์พูล กับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เมื่อวันที่ 15 เมษายน 1985 หลังจากอัฒจันทร์รองรับแฟนบอลเกินความจุจนถล่มลงมาส่งผลให้แฟนบอล "หงส์แดง" 96 คนเสียชีวิต

ขณะที่โศกนาฎกกรมเฮย์เซล ในกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม เป็นเกมระหว่างลิเวอร์พูล กับยูเวนตุส ในรอบชิงยูโรเปี้ยน คัพ 1985 โดยผู้เสียชีวิต 39 คนส่วนใหญ่เป็นแฟนบอลของยูเวนตุสที่ตายจากเพราะกำแพงอัฒจันทร์ถล่มลงมา หลังจากเหตุทะเลาะวิวาทของกองเชียร์ทั้ง 2 ทีม

เลสเตอร์จ้องซิว ดาร์บี้ 1 ล้านป.

"เจ้าสุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ หวังได้ของดีราคาถูก เตรียมยื่น 1 ล้านปอนด์ หวังคว้าตัว สตีเฟ่น ดาร์บี้ กองหลังดาวรุ่งดีกรีทีมชาติอังกฤษชุดเล็กของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล มาร่วมทัพด้วย

โดย นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ รายงานว่า "เดอะ ฟ็อกซ์" ประทับใจฟอร์มของแบ็คขวาเด็กปั้นของหงส์แดงรายนี้และอยากได้มาเสริมทีมมาก โดยดาร์บี้ นั้นมีดีกรีเป็นถึงกัปตันทีมหงส์แดงชุดคว้าแชมป์เอฟ เอ ยูธ คัพ รวมถึงเคยผ่านการรับใช้ทีมชาติอังกฤษทั้งชุด ยู19 และ ยู21 มาแล้ว

ทางเลสเตอร์มองเห็นว่าโอกาสที่ทีมหงส์แดงจะตัดสินใจปล่อยดาวเตะรายนี้ออกมาจากทีมนั้นมีสูง เนื่องจากในตำแหน่งแบ็คขวานั้น พวกเขามี เกล็น จอห์นสัน ซึ่งยังไงก็คงจะการันตีตำแหน่งตัวจริงดักเอาไว้อยู่แล้ว

ดาร์บี้ เคยมีโอกาสได้เล่นในทีมชุดใหญ่ของหงส์แดงมาแล้ว ในเกมพบกับ สเปอร์ส เมื่อเดือนมกราคม จากนั้นก็โดนปล่อยตัวไปให้กับ สวินดอน ยืมตัว ซึ่งที่นั่นเจ้าตัวก็ทำผลงานได้เข้าตาเสียด้วย มีส่วนพา เดอะ โรบินส์เข้าไปเล่นเพลย์ออฟกับ มิลล์วอลล์ โดยดาร์บี้ ได้ลงเล่นให้สวินดอนไปทั้งหมด 14 เกม

ตามรอยอดีตหงส์ : คุณชายซ้อมแล้วลุ้นหม่ำฝอยทอง

ชาบี้ อลอนโซ มิดฟิลด์คุณชายสลัดอาการบาดเจ็บกลับมาฝึกซ้อมแล้วขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ บิเซนต้ เดล บอสเก้ กุนซือทีมชาติสเปนจะให้ออกสตาร์ทในเกมดวลกับ โปรตุเกส ศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้ายหรือไม่

กองกลางเรอัล มาดริดได้รับบาดเจ็บข้อเท้าขวาจนต้องออกจากการแข่งขัน ในเกมเฉือนชนะ ชิลี 2-1 เมื่อสัปดาห์ก่อนจากนั้นเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูสภาพร่างกายทำให้ไม่สามารถร่วมกิจกรรมกับพลพรรคกระทิงดุได้เลย

ล่าสุด อลอนโซ กลับมาฝึกซ้อมได้แล้วที่กรีน พอยต์ สเตเดี้ยม โดยมี เดล บอสเก้ ยืนติวเข้มอย่างไรก็ดีตามอดีตแข้งลิเวอร์พูล ยังดูมีอาการบาดเจ็บอยู่เล็กน้อยไม่สามารถใช้เท้าขวาได้ตามปกติ ดังนั้นคาดว่ากุนซือหนวดหินไม่กล้าเสี่ยงอาจเปิดโอกาส ฆาบี้ มาร์ติเนซ ทำหน้าที่แทน

ไม่พลิก!ฮอดจ์สันกุนซือใหม่หงส์วันพฤหัส

เดอะค็อปเตรียมทำใจรับกับรอย ฮอดจ์สันขึ้นเป็นผู้จัดการทีมใหม่"หงส์แดง"ลิเวอร์พูล หลังบอร์ดบริหารเร่งตัดหน้าทีมชาติอังกฤษแต่งตั้งในวันพฤหัสนี้เลย

"หงส์แดง"ได้รับไฟเขียวจากฟูแล่มให้คุยกับบิ๊กบอสวัย 62 ปีเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนและทันทีที่อังกฤษตกรอบฟุตบอลโลกทำให้ชื่อของอดีตกุนซืออินเตอร์ มิลานและทีมชาติสวิสเซอร์แลนด์หอมกรุ่นขึ้นมาทันที

อย่างไรก็ตามหลังคั่วมานานลิเวอร์พูล เตรียมประกาศแต่งตั้งแทนราฟาเอล เบนิเตซอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสนี้ค่อนข้างแน่นอนแล้ว

"ฮอดจ์สันเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของบอร์ดลิเวอร์พูล ที่จะมาแทนเบนิเตซ"เอียน เดนนิสนักข่าวซ๊เนียร์ของวิทยุบีบีซี 5 กล่าว

"หลังฟูแล่มไฟเขียวให้ลิเวอร์พูล เข้าคุยกับฮอดจ์สัน มันก็เหลือแค่ว่าทั้งสองทีมจะตกลงค่าชดเชยกันได้ยังไง"

ฮอดจ์สันคุมฟูแล่มมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2007 และต่อสัญญาใหม่ 12 เดือนเมื่อเดือนธันวาคม 2009

แม้จะเริ่มต้นได้ค่อนข้างติดขัดโดยได้แค่ 9 แต้มจาก 13 นัดแต่ก็ช่วย"เจ้าสัวน้อย"หนีตกชั้นในฤดูกาล 2007/08 แถมเป็นวันสุดท้ายของซีซั่นอีกด้วย

ปีต่อมาฮอดจ์สันนำฟูแล่มคว้าอันดับ 7 ในพรีเมียร์ลีกซึ่งเป็นอันดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรก่อนคว้าสิทธิ์ไปเล่นในยูโรป้า ลีก

ยอดกุนซือขาวอังกฤษนำฟูแล่มฝ่าด่านเขี่ยทั้งยูเวนตุสและโวลฟ์บวร์กในรายการยูโรป้า ลีกก่อนเสียท่าแอตเลติโก มาดริดได้แค่รองแชมป์จนท้ายที่สุดได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้จัดการลีก

ตอร์เรสกลบข่าวตามราฟาลงรูงู

เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกกระทิงดุของลิเวอร์พูล ออกมาสยบข่าวลือที่ว่าอินเตอร์มิลานเอาจริงเอาจังกับการดึงตัวไปร่วมทีม

ดาวเตะทีมชาติสเปนตกเป็นข่าวว่าจะตามราฟาเอล เบนิเตซ เอลบอสไปเล่นให้กับอินเตอร์ในซัมเมอร์นี้ แต่"เอล นินโญ่"ได้ออกมากลบเสียงลือเสียงเล่าอ้างแล้ว

"การตกเป็นข่าวกับสโมสรใหญ่เป็นเรื่องที่ดีเสมอ ทำให้ผมรู้สึกปลื้มมาก"ตอร์เรส บอก

"ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกตินะที่จะตกเป็ฯข่าวกับทีมใหญ่ เพราะพวกเขาสนใจทีมที่อยู่ในสถานการณ์ลำบากอย่างลิเวอร์พูล ที่ไม่ได้เล่นแชมเปียนส์ลีก"

"แต่ถ้าไม่สนใจข่าวลือพวกนี้ ก็ไม่มีอะไรจริงๆจังๆเกี่ยวกับผมซักกะหน่อย"

วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553

"ตอร์เรส" ตัดสินอนาคตหงส์หลังบอลโลก



เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงลิเวอร์พูล เชื่อว่าการตัดสินใจอำลาตำแหน่งผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ของ ราฟาเอล เบนิเตซ เรื่องที่ดีต่อทุกฝ่าย นอกจากนี้ดาวยิงวัย 26 ปียังปฏิเสธที่จะพูดถึงอนาคตของตนเองในถิ่นแอนฟิลด์จนกว่าจะสิ้นสุดฟุตบอลโล 2010 ที่แอฟริกาใต้

เบนิเตซ อำลาจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล หลังเจอความกดดันจากการพาทีมทำผลงานไม่น่าประทับใจด้วยการจบอันดับ 7 ของตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนที่กุนซือชาวสแปนิชจะไปรับงานคุมทีมอินเตอร์ มิลาน แชมป์กัลโช เซเรีย อา อิตาลี

ด้าน ตอร์เรส กล่าวถึงการลาออกของ เบนิเตซ ว่าไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด "ตรงจุดนี้ ผมคิดว่าการลาออกของเขาเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย เบนิเตซคว้าแชมป์มาทุกอย่างและเมื่อปีที่แล้วสโมสรเรียกร้องจากเขามากเกินไป"

ปัญหาความขัดแย้งภายในถิ่นแอนฟิลด์และสถานภาพทางการเงินอันไม่มั่นคงทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องเจองานหนักในการรั้งบรรดาผู้เล่น ระดับซูเปอร์สตาร์ ตอร์เรส เป็นคนหนึ่งที่ตกเป็นข่าวกับสโมสรยักษ์ใหญ่อื่นทั้ง บาร์เซโลนา เชลซี และแมนเชสเตอร์ ซิตี

เมื่อถูกถามถึงอนาคตของตนเองกับ ลิเวอร์พูล ก่อนหน้าที่จะนำ สเปนพบกับ โปรตุเกส ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 2010 ในวันอังคารที่ 29 มิถุนายนนี้ ตอร์เรสตอบว่า "เรายังไม่มีโค้ชและสโมสรจะบอกเราเกี่ยวกับสถานการณ์ของทีมหลังจากฟุตบอลโลก ตอนนี้สิ่งที่ผมต้องการคือการเอาชนะ โปรตุเกส ก่อน"

งูเมินส่ง "คัมบิอาสโซ" ให้หงส์แลก "มาสเช"

ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ กัปตันทีม "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ไม่เห็นด้วยกับไอเดียที่ว่าทีมอาจต้องส่ง เอสเตบัน คัมบิอาสโซ ไปให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เพื่อแลกกับ ฮาเวียร์ มาสเชราโนกองกลางกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา

นับตั้งแต่ ราฟาเอล เบนิเตซ เข้ามาคุมบังเหียน อินเตอร์ มิลาน แทนที่ โชเซ มูรินโญ มีกระแสข่าวมาโดยตลอดว่ากุนซือชาวสเปนหมายดึง ฮาเวียร์ มาสเชราโน ศิษย์เก่าในรัง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล มาร่วมงานกันอีกครั้ง อย่างไรก็ดี เมื่อสัปดาห์ก่อนบอร์ดบริหาร "งูใหญ่" ปฏิเสธแล้วที่จะทุ่มเงินหลัก 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,500 ล้านบาท) สำหรับการดึงดาวเตะวัย 26 ปี มาสู่ถิ่นจูเซ็ปเป เมียซซา

ทำให้มีการเสนอไอเดียที่ว่า อินเตอร์ มิลาน อาจทำการส่ง เอสเตบัน คัมบิอาสโซ มิดฟิลด์วัย 29 ปี ให้แก่ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพื่อแลกมาซึ่ง มาสเชราโน อย่างไรก็ตาม ตามความคิดเห็นของ ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ ไม่มีความประสงค์เช่นนั้นจากการให้สัมภาษณ์ "คอร์ริเอเร เดลโล สปอร์ต" สื่อดังแดนมะกะโรนี "มาสเชราโน เป็นนักเตะ ที่มีคุณค่า เรื่องนี้ปราศจากข้อสงสัย เพราะทีมต่างๆ ล้วนอยากได้ตัวเขาไปร่วมงาน ทว่าคุณไม่สามารถนำเอาเรื่องการแลกตัวเขากับ คัมบิอาสโซ มาพูดได้เลย"

สำหรับ ซาเน็ตติ อดีตกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา ไม่ติดทัพ "ฟ้าขาว" ไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ อย่างไรก็ดี มาสเชราโน เคยเอ่ยปากกับสื่อว่าแบ็กขวาจอมเก๋าวัย 36 ปี ยังส่งข้อความมาให้กำลังใจทีมเสมอในการลุ้นเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 3 ต่อจากปี 1978 และ 1986

รุมจี้ "แบล็ตเตอร์" รับผิดเชิ้ตดำบอลโลกสุดมั่ว

เกรแฮม โพลล์ อดีตผู้ตัดสินคนดังของอังกฤษ และมาร์ค ลอว์เรนสัน ผู้วิเคราะห์เกมชื่อดัง ออกโรงโจมตีเซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) ว่าเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบความผิดพลาดของผู้ตัดสินในฟุตบอลโลก 2010 หลัง ฮอร์เก ลาร์ริออนดา ปฏิเสธประตูของแฟรงค์ แลมพาร์ด ที่ข้ามเส้นไปแล้วในเกมอังกฤษพ่ายเยอรมนี 1-4 เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ความผิดพลาดในการตัดสินของเชิ้ตดำเกิดขึ้นอีกครั้งในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2010 ที่สนาม ฟรี สเตท สเตเดียม เมืองบลูมฟอนเทน หลัง ฮอร์เก ลาร์ริออนดา ผู้ตัดสินจากอุรุกวัย ตัดสินให้ลูกยิงของแฟรงค์ แลมพาร์ด ที่ยิงจากบริเวณหัวกะโหลกบอลเช็ดคานข้ามเส้นเข้าประตูไปแล้วกระดอนออกมาไม่เป็นประตู ท่ามกลางความกังขาของแฟนบอลทั่วโลก

โดย โพลล์ อดีตเปาหมายเลขหนึ่งของเมืองผู้ดี เขียนคอลัมน์โจมตีเซปป์ แบล็ตเตอร์ ผ่านเดลีย์เมล สื่อเมืองผู้ดีว่า "เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความพกพร่องในการทำหน้าที่ของประธานฟีฟ่า เขาปฏิเสธการนำเทคโนโลยีมาติดตั้งบริเวณเส้นประตูเพื่อตัดสินลูกปัญหา โดยเชื่อในความแม่นยำของผู้ตัดสิน ในการประชุมใหญ่องค์กรลูกหนังโลกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา"

พร้อมกันนี้เปาผู้ดีที่เคยผิดพลาดในฟุตบอลโลก 2006 ด้วยการแจกใบเหลืองนักเตะ คนเดียว 3 ใบ แต่ไม่เป็นใบแดง ยังตำหนิการทำหน้าที่ของ ลาร์ริออนดา ด้วยว่า "เขาจำเป็นต้องทำอะไรมากกว่าที่แสดงออกมา เพราะเขามีผู้ช่วยอยู่ที่ข้างสนาม รวมถึงมีไมค์โครโฟนพูดคุยได้ตลอดเวลา รวมถึงยังมีผู้ตัดสินที่ 4 อีกหนึ่งคนอยู่ที่ข้างสนาม บางทีเทคโนโลยีอาจช่วยให้เขาตัดสินใจง่ายขึ้นในการทำหน้าที่"

ด้านมาร์ค ลอว์เรนสัน อดีตแข้งทีมลิเวอร์พูล ที่ทำหน้าที่วิเคราะห์เกมจากการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ของอังกฤษร่วมจวกประธานฟีฟ่าด้วยเช่นกัน "ขอบคุณมากเซปป์ แบลต์เตอร์ ผมคิดว่าป่านนี้เขาคงจะนั่งเกร็งจนตัวสั่นกับภาพที่เห็นไปทั่วโลก เพราะเขารณรงค์เรื่องแฟร์เพลย์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นรู้กันแล้วว่ามันไม่ยุติธรรมเลย"

ตอร์เรสให้คำมั่น “ค็อปน้อย” ไม่มีวันลงเรือ


เฟร์นานโด ตอร์เรส ศูนย์หน้าของลิเวอร์พูล ได้ให้คำมั่นกับทางแฟนบอลตัวน้อยของ ‘หงส์แดง’ ว่าเขาจะไม่มีวันย้ายไปเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้อย่างแน่นอน

รามีซ มาโฮเมด จากโยฮันเนสเบิร์ก เป็นหนึ่งในเด็ก 23 คนที่ได้เข้าไปดูเกมของสเปน กับฮอนดูรัสที่เล่นกันในสนามเอลลิส ปาร์ค

ซึ่งเขาเป็นแฟนของลิเวอร์พูล และสเปน รามีซมีโอกาสเข้าไปถามตอร์เรส ว่า เขาจะย้ายออกจากลิเวอร์พูล แล้วไปเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในฤดูกาลหน้าหรือเปล่า?

"ตอร์เรส บอกผมว่า เขาจะไม่มีวันย้ายไปเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะหัวใจทั้งดวงของเขาอยู่ที่ลิเวอร์พูล และเพราะว่าเขาเข้ากันได้ในการเล่นกับสตีเว่น เจอร์ราร์ด " รามีซกล่าวกับ Sunday Times

ซาเบร่า แม่ของรามีซได้ออกมาบอกว่า เธอช็อกไม่น้อยที่เห็นลูกชายวิ่งเข้าไปหาตอร์เรส

"ตอร์เรส คือไอดอลของเขา ในฐานะแม่ การได้เห็นอะไรแบบนั้น มันเป็นช่วงเวลาที่ตกอยู่ในภวังค์มาก มือของฉันสั่นเลย มันแย่เลยที่คุณสามารถเห็นมันผ่านวีดีโอที่ฉันถืออยู่ได้" เธอกล่าว

เด็กชายตัวน้อยได้ออกมาบอกด้วยว่า เขาไม่รู้สึกกลัว หรือกังวลใด ๆ ในตอนที่วิ่งเข้าไปหาดาวยิงเบอร์หนึ่งของ ‘หงส์แดง’ เลย

"ผมไม่กลัว ผมแค่ตื่นเต้นที่ได้จับมือกับหนึ่งในนักเตะ ที่ดีที่สุดในโลก และไม่ใช่ที่ดีที่สุดเท่านั้น เขายังเป็นนักเตะ ที่ผมชื่นชอบด้วย"

เจิดก้มหน้ารับ อินหรีเหล็กสมควรเป็นผู้ชนะ

สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล และ ทีมชาติอังกฤษ ยอมรับสุด "ทีมอินทรีเหล็ก" เยอรมัน สมควรแล้วแก่การเป็นผู้ชนะในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยในเกมนี้ทีมชาติเยอรมันถล่มสิงโตคำรามไปเละถึง 4-1

โดยเกมนี้ เยอรมันทำประตูนำไปได้ก่อนจาก มิโรสลาฟ โคลเซ่ และ ลูคัส โพดอลสกี้ ก่อนที่ แม็ทธิว อัพสัน จะมาตีไข่แตกก่อนหมดเวลาครึ่งแรก

ในครึ่งหลัง แม้อังกฤษจะบุกหนักแต่ เยอรมันก็ฉวยโอกาสจากเกมโต้กลับย้ำชัยอีก 2 ประตูรวดจากการยิงของ โธมัส มุลเลอร์ ทั้ง 2 ประตู โดยทีมอินทรีเหล็กจะเข้าไปรอพบกับผู้ชนะระหว่าง ทีมชาติอาร์เจนติน่า กับ ทีมชาติเม็กซิโก ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ด้านเจอร์ราร์ด ในฐานะผู้แพ้ในเกมนี้ก็ถือว่ามีสปิริตที่น่ายกย่องในฐานะผู้แพ้ เมื่อเจ้าตัวก็ออกมายอมรับถึงผลการแข่งขัน และฟอร์มของคู่แข่งแต่โดยดี

"เยอรมันเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมมาก และ สมควรเป็นผู้ชนะ" สตีวี่ จี กล่าวกับ บีบีซี หลังเกมจบลง

"น่าเสียดายในแง่ของทีม พวกเราทำผิดพลาดครั้งใหญ่ และก็โดนพวกเขาลงโทษ"

"พวกเขาเฉีบมคมมากที่หน้าประตู และ ทำผิดพลาดน้อยกว่าพวกเรา"

เลิกลือ! เดเด้ไม่สนเผือกร้อนที่แอนฟิลด์

ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ กุนซือผู้พา "โอแอ็ม" โอลิมปิก มาร์กเซย์ คว้าแชมป์ลีกเอิง เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ออกโรงปฏิเสธข่าวที่ถูกโยงไปพัวพันกับเก้าอี้นายใหม่ของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล

หลังจากที่ประธานสโมสรมาร์กเซย์ได้ออกมาบอกว่า ทางหงส์แดงได้ขอพูดคุยกับเดส์ช็องส์ และ เอเย่นต์ เพื่อสอบถามความเป็นไปได้ในการย้ายมารับตำแหน่งกุนซือหงส์แดงที่ยังว่างอยู่นั้น

ล่าสุดเป็น เดส์ช็องส์ เองที่ออกมายืนยันว่า ตัวเขานั้นจะอยู่คุมทีมในถิ่นสต้าด เวโลโดรม ต่อไป ไม่มีการย้ายไปไหนทั้งสิ้น

"ผมมีความสุขดีที่มาร์กเซย์ ผมไม่ได้อยู่ที่นี่แค่ปีเดียว การเป็นโค้ชจะต้องวางแผนในระยะยาว และ นั่นก็คือสิ่งที่ผมหวังเอาไว้"

จากการให้สัมภาษณ์นี้ ทำให้มีสื่อบางสำนักเปลี่ยนเป้าหมายไปที่อดีตกุนซือเรอัล มาดริด และ บียาร์เรอัล อย่าง มานูเอล เปเญกรินี่ ซึ่งมีรายงานว่า เคนนี่ ดัลกลิช ในฐานะผู้เสาะหานายใหม่ได้เดินทางไปพบ รวมถึง รอย ฮอดจ์สัน ที่มีการเดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้ก่อนกำหนด ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่สามารถตัดทิ้งไปได้

หงส์หวังประกาศบอสใหม่ก่อนรวมพลศุกร์นี้

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล หวังจะสามารถประกาศชื่อบอสใหญ่คนใหม่อย่างเป็นทางการให้ได้ภายในสัปดาห์นี้

เดอะ ซันเดย์ เอ็กเพรสส์ รายงานว่า รอย ฮอดจ์สัน ได้เข้าพูดคุยกับบอร์ดบริหารของทีมหงส์แดงไปเรียยร้อยแล้ว และ ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ให้ทางสโมสรรอเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก่อนจะลงทำการฝึกซ้อมปรีซีซั่นเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่ครั้งแรก ในศุกร์นี้

จากข่าวนี้ สื่อเมืองผู้ดียังอ้างว่า บรรดาแข้งซีเนียร์สของหงส์แดงค่อนข้างจะพอใจ หากทีมมีการแต่งตั้งอดีตกุนซือฟูแล่มรายนี้มาเป็นบอสใหญ่คนใหม่จริง แต่ตามกำหนดแล้ว บรรดาแข้งที่เข้าร่วมแข้งฟุตบอลโลกนั้นไม่ว่าทีมจะเข้ารอบหรือตกรอบ พวกเขาจะมีกำหนดเดินทางกลับมาเข้าแค้มป์ฝึกซ้อมช้ากว่านักเตะ ที่ไมได้ไปร่วมเล่นฟุตบอลโลก ซึ่งกว่าจะได้กลับมาเจอนายใหม่ก็คงเป็นราวๆ กลางเดือนหน้าเลย

เค้าท์ลั่นพร้อมดวลแข้งสเคอร์เทล

เดิร์ก เค้าท์ ดาวเตะจอมขยันทีมชาติฮอลแลนด์ พร้อมลงดวลแข้งกับ มาร์ตินสเคอร์เทล ปราการหลังฮาร์ดคอของสโลวาเกีย เพื่อนร่วมรัง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ในเกมฟุตบอลโลกรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่มีทั้งสองชาติคิวดวลเกือกกันในช่วงค่ำวันจันทร์นี้

เค้าท์ จะซึ่งมีโอกาสสูงที่จะถูกส่งลงสนามในเกมที่ เดอร์บาน ค่อนข้างมั่นใจว่าทีม ฟลายอิ้ง ดัตช์แมน ชุดนี้มีฟอร์มการเล่นที่ลงตัว และ ไม่เกรงกลัวคู่แข่งไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

"พวกเรามีความมั่นใจมาก เพราะว่าตอนนี้ไม่แค่พวกเราชนะรวดในรอบแรกเท่านั้น แต่ในทุกๆ เกมเรายังทำผลงานได้ดีด้วย" เค้าท์ บอก

"พวกเรายังสามารถทำอะไรได้ดีกว่านี้ มาร์ติน (สเคอร์เทล ) เป็นกองหลังที่ยอดเยี่ยม แต่ผมก็พร้อมที่จะเจอกับเขาแล้ว ผมเคยเล่นกับ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ ในรอบแรก และ เราก็สามารถเอาชนะเดนมาร์กมาได้"

"มันคงจะแปลก ๆ เล็กน้อย เพราะคุณเคยลงซ้อมกับเขาทุก ๆ วัน เล่นด้วยกันทุก ๆ เกม แต่มาตอนนี้พวกเราต้องมาอยู่คนละข้างกัน"

"แต่มันก็คือฟุตบอลโลก นักเตะ ที่ดีที่สุดต่างมาอยู่ที่นี่ และ พวกเราก็จะทำผลงานให้ดีที่สุด"

"ผมคิดว่าเราจะทำมันได้ดี"

วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เลขาฟีฟาปลื้มเวิลด์คัพหนนี้ใกล้สมบูรณ์แบบ


เฌโรม วาล์คเค เลขาธิการของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา ยิ้มหน้าบานฟุ้งฟุตบอลโลก 2010 ที่ แอฟริกาใต้ เป็นการจัดแข่งขัน ที่สมบูรณ์แบบ มั่นใจหากรักษาให้อยู่ในระดับนี้ไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ ถือว่าน่าพอใจมาก

ศึกฟุตบอลโลกถูกจัดขึ้นที่ทวีปแอฟริกาเป็นครั้งแรก ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่าย เนื่องจากมีปัญหาเกิดขึ้นทั้งก่อนและหลังทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น ล่าสุดยังมีเรื่องต้องแก้ไขเกี่ยวกับเรื่องระบบขนส่งและการประสานงานของตำรวจกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตามเวลา เวิลด์ คัพ ครั้งที่ 19 ผ่านพ้นครึ่งทางคือเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย วาล์คเค เลขาธิการของ ฟีฟา ยอมรับพอใจกับการแข่งขัน ครั้งนี้

"เมื่อถึงวันที่ 11 กรกฎาคมหากเรายังสามารถรักษาระดับให้เท่ากับวันนี้ ผมอยากจะเป็นบอกว่าเป็นฟุตบอลโลกที่สมบูรณ์แบบ ฝ่ายจัดทำผลงานได้ดีถือว่าเกินความคาดหมายของเรากับยอดผู้ชมที่มา แอฟริกาใต้ บางทีเราอาจจะบอกว่าฟุตบอลโลกสิ้นสุดอีกครั้งหนึ่งแล้ว ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดีและที่นี่ก็อาจจะเป็นแผน บี ของเราในอนาคตต่อไป" วาล์คเค เผย

วาล์คเค ยังกล่าวชมการจัดกิจกรรมต่างๆ ขององค์กรท้องถิ่นใน แอฟริกาใต้ ดำเนินไปอย่างราบรื่น เชื่อว่าประเทศอื่นก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันหากว่าวิ่งเข้าไปหาปัญหา "ผมแน่ใจว่าเราคงจะไม่ได้เห็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเสมอในโลกฟุตบอลหรอก แต่ผมคิดว่าเวลานี้ฟุตบอลถือเป็นกีฬาที่มีระดับที่ดีมาก"

ส่วนประเด็นนอกเหนือจากนี้ วาล์คเค เผยว่าจะนำไปพิจารณาไม่ว่าจะเป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับการตัดสินของกรรมการและลูกฟุตบอล จาบูลานี รวมถึงเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยนอกสนามบริเวณที่แฟนบอลมารวมตัวกันเชียร์ทีมรัก เนื่องจากหวั่นว่าจะมีการปะทะกัน

จริงไหม? งูสอดกัมบิอัสโซ่ลงข้อเสนอซื้อมาสช์

ไม่รู้ว่าข่าวจริงหรือมั่ว สำหรับอินเตอร์ มิลานที่เตรียมจะใส่เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ยอดมิดฟิลด์ชาวอาร์เจนไตน์ลงในข้อเสนอขอซื้อตัวฮาเวียร์ มาสเชราโน ของลิเวอร์พูล

Sunday Mirror รายงานว่า 'งูใหญ่' กำลังมองหาทางที่จะใช้นักเตะ บวกเงินในการขอซื้อมาสเชราโน จึงเป็นเหตุให้มีข่าวว่ากัมบิอัสโซ่น่าจะเป็นตัวเลือกดังกล่าว ส่วนทางด้านลิเวอร์พูล เองยังไม่พร้อมจะเจรจาเรื่องการซื้อขายนักเตะ จนกว่าจะได้ตัวกุนซือคนใหม่ของทีมเสียก่อน

แต่ขณะที่กัมบิอัสโซ่ใกล้ที่จะอายุครบ 30 ปีแล้วนั้น เขาก็ถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดของดลกคนหนึงเลยทีเดียว

กัมบิอัสโซ่เพิ่งจะช็อกมา หลังจากที่หลุดจากโผทีมชาติอาร์เจนติน่าของดิเอโก้ มาราโดน่าที่ไปลุยฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้ ทั้งที่เขาเป็นกำลังสำคัญให้กับอินเตอร์ มิลานคว้าเทรบเบิ้ลแชมป์ได้ในฤดูกาลที่ผ่านมา

พ่อไม่อยู่! เคาท์เริ่มไม่ชัวร์เล่นให้หงส์ต่อ


หลังราฟาเอล เบนิเตซประกาศอำลาลิเวอร์พูล ไปทำให้ศูนย์หน้าลูกรักอย่างเดิร์ก เคาท์ เริ่มไม่ชัวร์ว่าเขาจะอยู่กับทีมหงส์แดงต่อไปรึเปล่าในฤดูกาลหน้า

ราฟาอำลาลิเวอร์พูล ไปเมื่อเดือนที่ผ่านมาทำให้เคาท์ เริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าอนาคตของตัวเองกับทีมหงส์แดงจะเป็นอย่างไร

แข้งวัย 29 ปีเป็นนักเตะ ที่เบนิเตซชอบใช้งานมากที่แอนฟิลด์ และได้ลงสนามเกินไปกว่า 200 นัดแล้วนับตั้งแต่ย้ายมาเมื่อปี 2006

"เราต้องดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมมีช่วงเวลาดีๆกับลิเวอร์พูล และผมยังมีสัญญาเหลืออยู่อีก 2 ปี ตอนนี้ผมโฟกัสกับฟุตบอลโลกเท่านั้นแต่ผมก็ยังมีความสุขในการเล่นให้ลิเวอร์พูล นะ" เคาท์ กล่าว

"แต่ใครจะรู้ล่ะว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต เราต้องดูกัน เราต้องดูว่าใครจะมาเป็นกุนซือคนใหม่ของลิเวอร์พูล หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้นักเตะ ใหม่เข้ามาเสริมทีมแต่เราจะดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับอนาคตของผม"

นอกจากนี้เคาท์ ยังเผยด้วยว่าเขาไม่ได้ติดต่อกับราฟาเลยนับตั้งแต่บิ๊กบอสสแปนิชแยกทางกับทีมไป

"ผมไม่ได้คุยกับเขาเลย ผมได้รับแมสเสจบ้างแต่มันเป็นประมาณว่า 'โชคดีกับการลงสนามนะ' หรือไม่ก็ 'ทำได้ดีมาก' อะไรประมาณนี้"

หงส์มั่นใจซิวโยวาโนวิชตามเดิม



"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยังแสดงความมั่นใจว่า จะได้ตัว มิลาน โยวาโนวิช ดาวเตะทีมชาติเซอร์เบียมาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัว หลังจัดการเซ็นสัญญากันไปล่วงหน้าตั้งแต่เดือนมกราคม

แม้จะมีข่าวออกมาว่า โยวาโนวิช นั้นสามารถยกเลิกสัญญา 3 ปีที่เขาเซ็นล่วงหน้ากับทีมหงส์แดงไว้ได้ ทำให้แฟน ๆ ชักจะไม่แน่ใจเสียแล้วว่าทีมจะได้ตัว ดาวเตะรายนี้มาร่วมทีมจริงหรือเปล่า โดยเฉพาะเมื่อเห็นฟอร์มการเล่นที่เข้าตาในฟุตบอลโลก การได้ตัวนักเตะ ระดับนี้มาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัว จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจยิ่งนัก

ล่าสุด ลิเวอร์พูล เอคโค่ สื่อดังของเมืองรายงานว่า ทางทีมหงส์แดงยังคงนิ่งเฉยกับข่าวที่ออกมา โดยแหล่งข่าววงในเผยว่า สโมสรยังมั่นใจเต็มร้อยว่ายังไงก็ตาม เมื่อถึงวันที่ 1 กรกฏาคม โยวาโนวิช ก็จะกลายเป็นนักเตะ ของทีมหงส์แดงโดยสมบูรณ์แบบแน่นอน

ราฟาหวังสักวันกลับไปคุมหงส์อีกครั้ง




ไม่รู้ว่าเหล่า 'เดอะ ค็อป' จะว่ายังไงกันบ้าง หลังจากที่ราฟาเอล เบนิเตซกุนซือป้ายแดงของอินเตอร์ มิลานได้ออกมายอมรับว่า เขาอาจจะกลับไปคุมลิเวอร์พูล อีกครั้งในอนาคตข้างหน้า

"ผมเลือกที่จะเก็บคฤหาสน์ในเวอร์เรลเอาไว้ เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นมาบ้างในชีวิต และสักวันผมอาจจะกลับไปที่ลิเวอร์พูล ก็เป็นได้" เขากล่าวกับ Il Corriere dello Sport

ราฟาอ้างว่าเขาได้รับโทรศัพท์เกี่ยวกับการที่ต้องออกจากสโมสร ในขณะกำลังเดินทางไปพักผ่อนอยู่

"การยกเลิกนะหรอ? ตอนนั้นผมพักผ่อนในซาร์ดิเนีย และคริส เพอร์สโลก็โทรหาผม แล้วบอกว่าผมไม่ได้อยู่ในแผนระยะยาวของสโมสรอีกต่อไป" เขากล่าว

"แต่ตอนนี้ผมพร้อมสำหรับอินเตอร์แล้ว และผมจะสู้เต็มที่กับสโมสรนี้นับตั้งแต่วินาทีแรกเลยละ"

ราฟาเซ็นสัญญากับทาง 'งูใหญ่' 2 ปี เพื่อที่จะสานต่อความสำเร็จที่โจเซ่ มูริญโญ่ทำเอาไว้ก่อนที่จะย้ายไปคุมเรอัล มาดริด

ศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์ถึงศิลปะสมัยใหม่

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับปะวัติศาสตร์ศิลป์
ประวัติศาสตร์ศิลป์แยกได้เป็น 2 คำ คือ ประวัติศาสตร์ (History) และศิลป์ (Art)ประวัติศาสตร์ (History) หมายถึง วิชาว่าด้วยความเป็นมาของมนุษย์ที่เกิดขึ้นในอดีตจนถึงปัจจุบัน
ศิลป์ (Art) มีความหมายกว้างขวางตามแนว และทัศนะของนักปรัชญาของแต่ละยุคแต่ละสมัย แต่จะอย่างไรก็ตามเราพอจะสรุปความหมายของศิลปะในแนวกว้าง ๆ คือ ศิลปะคือสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อแสดงออกซึ่งอารมณ์ ความรู้สึก ปัญญา ความคิดและความงาม

ประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาประวัติศาสตร์ศิลป์
ประวัติศาสตร์ศิลป์บอกให้เราทราบถึงการสร้างสรรค์ และวิวัฒนาการศิลปะของมนุษยชาติ ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ถึงยุคปัจจุบัน เราได้ศึกษาแบบอย่างงานศิลปะ ความเคลื่อนไหว ความเพียรพยายามในการสร้างสรรค์ ความเปลี่ยนแปลงของศิลปกรรมของแต่ละยุค เป็นแบบอย่างเพื่อการพัฒนา นำไปสู่การยกระดับคุณภาพของงานศิลปะในยุคปัจจุบัน นอกจากนั้น การศึกษาประวัติศาสตร์ศิลป์ ช่วยให้เกิดความซาบซึ้งในคุณค่าของงานศิลปะ มีความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของมวลมนุษย์ทั้งโลก

ศิลปะตะวันตก
ศิลปะตะวันตก หมายถึง ศิลปกรรมของกลุ่มประเทศในยุโรป (ปัจจุบันรวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย) มีรากฐานมาจากศิลปะของอียิปต์ และกรีก ซึ่งเป็นวัฒนธรรมยุคโบราณของโลก และพัฒนาขึ้นมาภายใต้อิทธิพลของคริสต์ศาสนา เป็นต้นแบบของศิลปะสากลในปัจจุบัน
ประวัติศาสตร์ของยุโรปแบ่งอย่างกว้าง ๆ ได้เป็น 4 ยุค คือ
1. ยุคก่อนประวัติศาสตร์ (Pre-Historic)
2. ยุคโบราณ (Ancient Age)
3. ยุคกลาง (Middle Age)
4. ยุคใหม่ (Modern Age)

1. ยุคก่อนประวัติศาสตร์ (Pre-Historic) ประมาณ 40,000 ปี – 4,000 ปี ก่อน ค.ศ.

ศิลปะอียิปต์ (Egyptian Art)

เรื่องราวอารยธรรมของอียิปต์ เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 4,000 ปีก่อน ค.ศ. เป็นยุคก่อน ประวัติศาสตร์ และก่อนราชวงศ์ (Pre-dynastic) ของอียิปต์ ชาวอียิปต์ได้สร้างศิลปวัฒนธรรมขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญาในด้านคุณธรรม และตอบสนองความเชื่อว่าวิญญาณของคนตายจะกลับคืนสู่ร่างกายใหม่ จึงเป็นมูลเหตุของการทำมัมมี่ (mummy) หีบบรรจุศพทำด้วยหิน สร้างอาคารรูปทรงพีระมิด (Pyramids) ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุด อยู่ที่เมืองกีซา ในกรุงไคโร ภายในพีระมิดเป็นที่บรรจุพระศพกษัตริย์คูฟู (Khufu) ฐานพีระมิดยาวด้านละ 756 ฟุต สูง 481 ฟุต กินเนื้อที่ 32 ไร่ สร้างด้วยหินนักกว่าก้อนละ 2 ตัน จำนวน 2,500,000 ก้อนประมาณว่าใช้กำลังคม 1,000,000 คน ผลัดกันสร้างทั้งกลางวัน และกลางคืน ใช้เวลาราว 20 ปี จึงเสร็จ ภายในห้องพีระมิด นอกจากจะบรรจุพระศพของกษัตริย์แล้ว ยังเป็นที่เก็บทรัพย์สมบัติอันมีค่า ผนังภายในตกแต่งด้วยภาพเขียนสี บรรยายด้วยอักษรโบราณ ทำให้ทราบถึงชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของชาวอียิปต์ชาวอียปต์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี

2. ยุคโบราณ (Ancient Age) ประมาณ 1,400 ปี ก่อน ค.ศ. –ค.ศ. 100

ศิลปะตะวันออกใกล้ (Ancient Near Eastem Aft)
อียิปต์พัฒนาอารยธรรมเจริญรุ่งเรื่องสุดขีดในลุ่มแม่น้ำไนล์ ส่วนทางฝั่งตะวันออกของทะเล เมดิเตอร์เรเนียน ดินแดนแถบแม่น้ำไทกรีส และยูเฟรทีส ได้แก่ดินแดนบางส่วนของประเทศอิหร่าน ซีเรีย จอร์แดน และซาอุดีอาระเบียในปัจจุบัน เรียกว่าแคว้นเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) หมายถึงดินแดนในลุ่มแม่น้ำสองสาย ชนชาติดังกล่าวมีอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรืองเช่นเดียวกัน ประเทศที่อยู่ในวัฒนธรรมนี้ได้แก่ สุเมเรียน บาบิโลเนียน อัสซิเรียน เปอร์เซีย
ลักษณะศิลปกรรมของสุเมเรียนมีความแตกต่างจากศิลปกรรมอียิปต์ คือ อียิปต์ใช้หินเป็นวัสดุก่อสร้าง ส่วนสุเมเรียนใช้อิฐเผาก้อนใหญ่ ๆ มาเรียงกัน ดังนั้นสถาปัตยกรรมส่วนใหญ่จึงมีอิฐเป็นโครงสร้างหลัก สถาปัตยกรรมของสุเมเรียนที่รู้จักกันมากที่สุดคือวิหารใหญ่เรียกว่า ซิกูรัต (Zigurat) เป็นหอสูงแบบตึกระฟ้า มีทางเดินเป็นบันไดวน เป็นสถานที่สำหรับทำพิธีทางศาสนา

ศิลปะบาบิโลน อยู่ช่วง 700 ปี ก่อน ค.ศ.
มีสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงมาก และเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปคือสวนลอยแห่งบาบิโลน โดยสร้างสวนให้สูงจากพื้นดิน ใช้อิฐซ้อนกันขึ้นไป วางผังลดหลั่นกันและมีความสลับซับซ้อน ตามซุ้มประตูต่าง ๆ ประดับด้วย ภาพสลักขนาดมหึมา ปัจจุบันสวนแห่งนี้ถูกทับถมปรักหักพังไปหมดแล้ว เหลือเฉพาะฐานรากบางส่วนเท่านั้น

ศิลปะอัสซิเรียน อยู่ในช่วง 900 ปี ก่อน ค.ศ.
ศิลปกรรมงานแกะสลักที่มีชื่อเสียง เป็นรูปสิงโตกำลังกัดเด็กหนุ่มพบในพระราชวังเมืองนิมรุดในอัสซิเรีย งานชิ้นนี้ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑ์บริติซกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ประติมากรรมลอยตัวชิ้นสำคัญที่ติดตั้งตามทางเข้าพระราชวังมีขนาดใหญ่โต เป็นรูปสิงโตมีปีก (Winged Lion) ส่วนงานสถาปัตยกรรมของอัสซิเรียน มีอาคารก่ออิฐเป็นโครงสร้างหลัก เป็นรูปโค้งรับน้ำหนักและใช้อิฐและหินก่อเป็นกำแพง ตกแต่งภายในด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง และกระเบื้องเคลือบเป็นรูปสิงโต

ศิลปะเปอร์เซีย อยู่ในช่วง 1,000 ปีก่อน ค.ศ.
อารยธรรมของเปอร์เซียมีชื่อเสียงโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมที่มีการตกแต่งภายในอย่างสวยงาม มีงานประติมากรรมใช้ในการตกแต่งสถาปัตยกรรม ได้แก่ เสาหินวัวคู่ ประดับพระราชวังที่เมืองเปอร์เซโปลิส (Persepolis)

ศิลปะกรีก (Greek Art)

ชาวกรีกเป็นมนุษย์เผ่าพันธุ์อินโด-ยูโรเปียนที่อพยพเคลื่อนย้ายลงสู่แหลมบอลข่าน ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ จนกระทั่ง 2,000 ปี ก่อน ค.ศ. จึงได้ตั้งหลักที่เป็นประเทศกรีซในปัจจุบัน ประกอบด้วย 2 รัฐใหญ่ที่สำคัญคือเอเธนส์ และสปาตา ชาวกรีกมีการศึกษาศิลปวิทยาจนมีความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์ อักษรศาสตร์ ปรัชญา และการปกครอง ศิลปกรรมกรีกมีความเจริญสูงสุด เป็นแบบฉบับในทางศิลปะของมนุษยชาติตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน
ศิลปกรรมของกรีกที่สำคัญได้แก่ งานสถาปัตยกรรม อาทิ วิหาร สนามกีฬา หอประชุม และสถานที่แสดงอุปรากร วิหารที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ วิหารพาร์เธนอน (Parthenon) สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว มีความงดงามมากแม้จะสร้างมาแล้วเป็นเวลานานกว่า 2,000 ปี ก็ไม่มีที่ติว่าควรจะ แก้ไขข้อบกพร่องส่วนใดส่วนหนึ่งของวิหารพาร์เธนอน ภายในวิหารตกแต่งด้วยภาพแกะสลักอย่างวิจิตรงดงาม

งานสถาปัตยกรรมกรีกแบ่งตามลักษณะหัวเสา 3 แบบใหญ่ ๆ คือ 1. แบบดอริก (Doric) 2. แบบไอโอนิก (Ionic) 3. แบบคอรินเทียน (Corinthian)

งานทางด้านประติมากรรมของกรีก นิยมสร้างสรรค์แนวเหมือนจริง (Realistic) โดยเฉพาะสรีระของคนเรา ชาวกรีกถือว่ามีความงดงามยิ่ง ชาวกรีกจึงนิยมปั้นและแกะสลักรูปคนเปลือยกายไว้มากมาย งานประติมากรรมลอยตัวที่มีชื่อเสียง ได้แก่ เทพธิดาวีนัส (Venus) รูปเทพเจ้าอพอลโล (Apollo) รูปนักกีฬาไมรอน (Myron) ประติมากรรมโลหะสัมฤทธิ์รูปเด็กหนุ่ม เป็นรูปเปลือยที่มีส่วนสัดของร่างกาย ตลอดจนการจัดวางท่วงท่าได้อย่างงดงาม

ศิลปะโรมัน (Roman Art)
ศิลปะโรมันส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากกรีก ซึ่งมีองค์ประกอบที่ประณีต งดงาม แต่ศิลปะของโรมันเน้นความใหญ่โตมโหฬาร มีความหรูหรา สง่างาม มั่นคงแข็งแรง สถาปัตยกรรมโรมันมีชื่อเสียงมาก โรมันเป็นชาติแรกที่คิดค้นสร้างคอนกรีตได้ สามารถใช้คอนกรีตหล่อขึ้นเป็นโครงสร้างรูปโดมช่วยทำให้การก่อสร้างอาคารมีขนาดใหญ่ขึ้น สถาปัตยกรรมของโรมันที่มีชื่อเสียงได้แก่ วิหารแพนเธออน (Pantheon) โคลอสเซียม (Colosseum) เป็นสนามกีฬารูปกลมรีขนาดใหญ่มหึมาสามารถจุคนดูได้ถึง 50,000 คน นอกจากงานสถาปัตยกรรมดังกล่าวแล้ว ชาวโรมันยังสร้างสะพานโค้งข้ามแม่น้ำและส่งน้ำข้ามหุบเขาต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก สิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก คือ ประตูชัย (Arch of Triumph) สร้างขึ้นเพื่อสรรเสริญ และฉลองชัยของทหารโรมัน โดยสร้างเป็นประตูโค้งขนาดใหญ่สำหรับให้ทหารเดินทัพผ่านเมื่อออกสงครามหรือภายหลังได้รับชัยชนะ ประดับด้วยภาพประติมากรรมนูนสูงอย่างสง่างาม
งานประติมากรรมของโรมันมีไม่มาก ส่วนใหญ่ขนย้ายมาจากกรีก มีการสร้างสรรค์ขึ้นเองบ้างแต่เป็นส่วนน้อยนอกนั้นทำเลียนแบบกรีกทั้งหมด ผลงานที่พบในกรุงโรมได้แก่ ภาพเลาคูนกับบุตรชายกำลังถูกงูกัด เป็นผลงานที่นำมาจากกรีก นอกนั้นได้แก่ภาพประติมากรรมของบุคคลสำคัญในยุคนั้น เช่น รูปจูเลียสซีซาร์ รูปจักรพรรดิออกัสตัส รูปจักรพรรดิคาราคัลลา รูปจักรพรรดิเนโร เป็นต้น
งานจิตรกรรมของโรมัน มีการค้นพบภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังที่ยังอยู่ในสภาพดีมากมาย ส่วนใหญ่เป็นภาพที่แสดงถึงเรื่องราวในชีวิตประจำวันของชาวโรมันนอกนั้นเป็นภาพในเทพนิยาย เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ลักษณะของภาพยังมีความงามที่สมบูรณ์ เป็นภาพเขียนสีและประดับด้วยหินสี (Mosaic) อย่างประณีต สวยงาม

ศิลปะไบแซนไทน์ (Byzantine Art) ประมาณ ค.ศ. 455
ศิลปะไบแซนไทน์เป็นศิลปะที่มีลักษณะเชื่อมโยงความคิด และรูปแบบระหว่างตะวันตกกับตะวันออกเข้าด้วยกัน มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล ศิลปะมีลักษณะใหญ่โต คงทนถาวร ประดับตกแต่งด้วยการใช้พื้นผิว (Texture) อย่างหลากหลาย งานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดของไบแซนไทน์ คือการทำหลังคาเป็นรูปกลม(Cupula) ต่างจากหลังคาของศิลปะโรมัน ที่ทำเป็นรูปโค้ง (Arch) หลังคากลมแบบไบแซนไทน์ ภายนอกเรียกว่าโดม (Dome) หลังคากลมช่วยให้สามารถสร้างอาคารได้ใหญ่โตมากขึ้น สิ่งก่อสร้างที่เป็นแบบฉบับของศิลปะดังกล่าว ได้แก่ โบสถ์เซนต์โซเฟีย ในกรุงคอนสแตนติโนเปิล โบสถ์เซนต์มาร์โค ที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

3. ยุคกลาง (Middle Age) ประมาณ ค.ศ. 300 – ค.ศ. 1300

ความเจริญทางด้านศิลปะในยุคกลาง เป็นการสร้างสรรค์โดยวัดและคริสต์ศาสนิกชน ซึ่งมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและศิลปวิทยา ศิลปะของคริสต์ศาสนาจึงเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะสิ่งก่อสร้างที่เกี่ยวกับวัดคาทอลิก มีลักษณะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละท้องถิ่น แต่ส่วนใหญ่สิ่งก่อสร้างจะมีขนาดเล็กลง นิยมสร้างด้วยหินและปูผิวด้วยอิฐ สร้างสุสานด้วยการเจาะหินหน้าผา กลุ่มศิลปะที่อยู่ในยุคกลางได้แก่ ศิลปะโกติก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา ศิลปะบารอก และรอกโกโก

ศิลปะโกติก (Gothic Art)
ศิลปะโกติกนิยมแสดงเรื่องราวทางศาสนาในแนวเหมือนจริง (Realistic Art) ไม่ใช้สัญลักษณ์เหมือนศิลปะยุคก่อน งานสถาปัตยกรรมมีโครงสร้างทรงสูง มียอดหอคอยรูปทรงแหลมอยู่ข้างบน ทำให้ตัวอาคารมีรูปร่างสูงระหงขึ้นสู่เพดาน ซุ้มประตู หน้าต่าง ช่องลม มีส่วนโค้งแปลกกว่าศิลปะแบบใด ๆ

ศิลปะสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance Art)
สงครามครูเสดนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ยุโรปตะวันตกอย่างใหญ่หลวง ระบอบการปกครองแบบศักดินาหมดสิ้นไป แว่นแคว้นต่าง ๆ เริ่มมีความเป็นอิสระ ศิลปินได้นำเอาแบบอย่างศิลปะชั้นสูงในสมัยกรีกและโรมัน มาสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระเต็มที่ งานสถาปัตยกรรมมีการก่อสร้างแบบกรีกและโรมันเป็นจำนวนมาก ลักษณะอาคารมีประตูหน้าต่างเพิ่มมากขึ้น ประดับตกแต่งภายในด้วยภาพจิตรกรรมและประติมากรรมอย่างหรูหรา สง่างาม งานสถาปัตยกรรมที่ ยิ่งใหญ่ในสมัยนั้นฟื้นฟูศิลปวิทยา ได้แก่ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter) ในกรุงโรม เป็นศูนย์กลางของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก วิหารนี้มีศิลปินผู้ออกแบบควบคุมงานก่อสร้างและลงมือตกแต่งด้วยตนเอง ต่อเนื่องกันหลายคน เช่น โดนาโต บรามันโต (Donato Bramante ค.ศ. 1440 – 1514) ราฟาเอล (Raphel ค.ศง 1483 – 1520) ไมเคิล แองเจลโล (Michel Angelo ค.ศ. 1475 – 1564) และโจวันนิ เบอร์นินี (Giovanni Bernini ค.ศ. 1598 – 1680)
งานจิตรกรรมและประติมากรรมในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา ศิลปินสร้างสรรค์ในรูปความงามตามธรรมชาติ และความงามที่เป็นศิลปะแบบคลาสสิกที่เจริญสูงสุด ซึ่งพัฒนาแบบใหม่จากศิลปะกรีกและโรมัน ความสำคัญของศิลปะสมัยฟื้นฟู มีความสำคัญต่อการสร้างสรรค์ศิลปะเกือบทุกสาขา โดยเฉพาะเทคนิคการเขียนภาพ การใช้องค์ประกอบทางศิลปะ (Composition) หลักกายวิภาค (Anatomy) การเขียนภาพทัศนียวิทยา (Perspective Drawing) การแสดงออกทางศิลปะมีความสำคัญในการพัฒนาชีวิต สังคม ศาสนาและวัฒนธรรม จัดองค์ประกอบภาพให้มีความงาม มีความเป็นมิติ มีความสัมพันธ์กับการมองเห็น ใช้เทคนิคการเน้นแสงเงาให้เกิดดุลยภาพ มีระยะตื้นลึก ตัดกันและความกลมกลืน เน้นรายละเอียดได้อย่างสวยงาม ศิลปินที่สำคัญในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาที่สร้างสรรค์งานไว้เป็นอมตะเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ได้แก่
เลโอนาร์โด ดาวินชี (Leonardo da Vinci) ผู้เป็นอัจริยะทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ แพทย์ กวี ดนตรี จิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรม ผลงานที่มีชื่อเสียงของดาวินชี ได้แก่ ภาพอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู (The last Supper) ภาพพระแม่บนก้อนหิน (The Virgin on the Rock) ภาพพระแม่กับเซนต์แอน (The Virgin and St. Anne) และภาพหญิงสาวผู้มีรอยยิ้มอันลึกลับ (mystic smile) ที่โด่งดังไปทั่วโลก คือ ภาพโมนาลิซา (Mona Lisa)
ไมเคิล แองเจลโล (Michel Angelo) เป็นศิลปินผู้มีความสามารถ และรอบรู้ในวิทยาการแทบทุกแขนง โดยเฉพาะรอบรู้ในด้านจิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรม เป็นสถาปนิกผู้ร่วมออกแบบและควบคุมการก่อสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ งานประติมากรรมสลักหินอ่อนที่มีชื่อเสียงและเป็นผลงานชิ้นเอก ได้แก รูปโมเสส (Moses) ผู้รับบัญญัติสิบประการจากพระเจ้า รูปเดวิด (David) หนุ่มผู้มีเรือนร่างที่งดงาม รูปพิเอตตา (Pietta) แม่พระอุ้มศพพระเยซูอยู่บนตัก ภาพเขียนของไมเคิล แองเจลโลชิ้นสำคัญที่สุด เป็นภาพบนเพดานและฝาฝนังของโบสถ์ซิสติน (Sistine) ในพระราชวังวาติกัน ประเทศอิตาลีในปัจจุบัน
ราฟาเอล (Raphael) เป็นผู้หนึ่งที่ร่วมออกแบบ ควบคุมการก่อสร้าง และตกแต่งมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ มีผลงานจิตรกรรมที่สำคัญเป็นจำนวนมาก ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป ได้แก่ ภาพแม่พระอุ้มพระเยซู (Sistine Madonna) ภาพงานรื่นเริงของทวยเทพ (Galatea) ศิลปะสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาแพร่หลายออกไปจากประเทศอิตาลีสู่ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปตะวันตกอย่างรวดเร็ว และมีอิทธิพลต่อศิลปะในประเทศนั้น ๆ อย่างมากมาย ทำให้เกิดสกุลศิลปะ และศิลปินที่สำคัญในท้องถิ่นนั้น ๆ เป็นจำนวนมาก ผลงานอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ เรากล่าวได้ว่ามนุษยชาติเป็นหนี้บุญคุณบรรพชนแห่งสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาอยู่จนปัจจุบันนี้

ศิลปะบารอกและรอกโกโก (Baroque and Rococo Art)
คำว่า Baroque และ Rococo ในปัจจุบัน หมายถึง สิ่งที่มีการตกแต่งประดับประดาด้วยเครื่องอลังการ วิจิตรพิสดารจนเกินงาม เป็นศิลปะตอนปลายสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาเชื่อมต่อกับศิลปะยุคใหม่ ศิลปะแบบบารอกและรอกโกโก เป็นลักษณะการจัดองค์ประกอบของศิลปะที่เน้นรายละเอียดส่วนย่อยอย่างฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะการใช้ส่วนโค้ง ส่วนเว้า งานจิตรกรรม และประติมากรรม ยังคงเน้นรูปร่าง รูปทรงธรรมชาติ (Realistic) แต่ใช้สีรุนแรงขึ้น งานสถาปัตยกรรมประกอบด้วยเส้นโค้งมนตกแต่งโครงสร้างเดิม มีลวดลายอ่อนช้อย งดงาม อาคารที่ถือเป็นแบบฉบับของศิลปะบารอก และรอกโกโก ได้แก่ โบสถ์เซนต์แอกเนส (Church of St. Agnese) โบสถ์เซนต์คาร์โล (Church of St. Carlo) ที่กรุงโรม พระราชวังแวร์ซาย (Versailes palace) ในประเทศฝรั่งเศส โบสถ์ทั่วไปในยุโรปตอนเหนือ เช่นในประเทศเนเธอร์แลนด์และประเทศเยอรมนี เป็นต้น

4. ยุคใหม่ (Modern Age) ค.ศ. 1800 - ปัจจุบัน

ศิลปะสมัยใหม่ (Modern Art) เริ่มขึ้นตอนปลายศตวรรษที่ 18 ในประเทศฝรั่งเศส สืบเนื่องจากความเจริญทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางศิลปะอย่างขนานใหญ่ ทั้งรูปแบบและจุดประสงค์ โดยเฉพาะสร้างสรรค์งานจิตรกรรม ศิลปินยุคใหม่ต่างพากันปลีกตัวออกจากการยึดหลักวิชาการ (Academic) ซึ่งเป็นกฎเกณฑ์ที่มีรากฐานมาจากศิลปะกรีกและโรมัน มาใช้ความรู้สึกนึกคิดและความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคนอย่างอิสระ แยกศิลปะออกจากศาสนาโดยสิ้นเชิง ศิลปะจึงเป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลอย่างแท้จริง ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกอย่างเต็มที่ จึงทำให้เกิดรูปแบบศิลปะใหม่ ๆ ขึ้นมากมาย ทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ดังจะได้กล่าวพอสังเขปดังนี้

ศิลปะแบบนีโอคลาสสิก (Neo-Classic)
นีโอคลาสสิกเป็นรูปแบบศิลปะที่อยู่ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างสมัยใหม่กับสมัยเก่า ภาพเขียนจะสะท้อนเรื่องราวทางอารยธรรม เน้นความสง่างามของรูปร่างทรวดทรงของคนและส่วนประกอบของภาพ มีขนาดใหญ่โต แข็งแรง มั่นคง ใช้สีกลมกลืน มีดุลยภาพของแสง และเงาที่งดงาม

ศิลปินที่สำคัญของศิลปะแบบนีโอคลาสสิก ได้แก่ ชาก – ลุย ดาวิด (ค.ศ. 1748-1825) ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้วางรากฐานของศิลปะแบบนีโอคลาสสิก ผลงานจิตรกรรมที่มีชื่อเสียง เช่น การสาบานของโฮราตี (The Oath of Horatij) การตายของมาราต์ (The Death of Marat) การศึกระหว่างโรมันกับซาไบน์ (Battle of the Roman and Sabines) เป็นต้น

ศิลปะแบบโรแมนติก (Romanticism)
ศิลปะแบบโรแมนติก เป็นศิลปะรอยต่อจากแบบนีโอคลาสสิก แสดงถึงเรื่องราวที่ตื่นเต้น เร้าใจ สะเทือนอารมณ์แก่ผู้พบเห็น ศิลปินโรแมนติกมีความเชื่อว่าศิลปะจะสร้างสรรค์ตัวของมันเองขึ้นได้ด้วยคุณค่าทางอารมณ์ของผู้ดูและผู้สร้างสรรค์ ศิลปินที่สำคัญของศิลปะโรแมนติก ได้แก่ เจริโคต์ (Gericault) ผลงานจิตรกรรมที่มีชื่อเสียงมาก คือ การอับปางของเรือเมดูซา (Raft of the Medusa) เดอลาครัว (Delacroix) ชอบเขียนภาพที่แสดงความตื่นเต้น เช่น ภาพการประหารที่ ทิชิโอ ความตายของชาดาร์นาปาล การฉุดคร่าของนางรีเบกกา เป็นต้น ฟรานซิสโก โกยา (Francisco Goya) ชอบเขียนภาพแสดงการทรมาน การฆ่ากันในสงคราม คนบ้า ตลอดจนภาพเปลือย เช่น ภาพเปลือยของมายา (Maya the nude) เป็นต้น

ศิลปะแบบเรียลิสม์ (Realism)
ศิลปินกลุ่มเรียลิสม์มีความเชื่อว่าความจริงทั้งหลายคือความเป็นอยู่จริง ๆ ของชีวิตมนุษย์ ดังนั้น ศิลปินกลุ่มนี้จึงเขียนภาพที่เป็นประสบการณ์ตรงของชีวิต เช่น ความยากจน การปฏิวัติ ความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยการเน้นรายละเอียดเหมือนจริงมากที่สุด ศิลปินสำคัญในกลุ่มนี้ ได้แก่ โดเมียร์ (Daumier) ชอบวาดรูปชีวิตจริงของความยากจนคูร์เบต์ (Courbet) ชอบวาดรูปชีวิตประจำวันและประชดสังคม มาเนต์ (Manet) ชอบวาดรูปชีวิตในสังคมเช่นการประกอบอาชีพ

ศิลปะแบบอิมเพรสชันนิสม์ (Impressionism)
กลุ่มศิลปินอิมเพรสชันนิสม์เริ่มเบื่อรูปแบบที่มีหลักความงามแบบเหมือนจริงตามธรรมชาติ เปลี่ยนเป็นสิ่งเชื่อมโยง เน้นด้วยแสง สี บรรยากาศ ศิลปินที่สำคัญของกลุ่มอิมเพรสชันนิสม์ ได้แก่ โคลด โมเนต์ (Claude Monet) ซิสเลย์ (Sisley) เดอกาส์ (Degas ปิซาโร (Pissaro มาเนต์ (Manet) เรอนัว (Renoir)

ศิลปะแบบโพสต์ – อิมเพรสชันมิสม์ (Post-Impressionism)
ศิลปะแบบโพสต์-อิมเพรสชันนิสม์จะไม่เลียนแบบจากสิ่งที่เป็นจริงโดยการสร้างรูปทรงใหม่ แต่นำวิธีการทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ เช่น การระบายสีด้วยเทคนิคขีด ๆ จุด ๆ เน้นสี แสง เงาให้เกิดมิติ บรรยากาศ ความงามและความประทับใจ ศิลปินในกลุ่มนี้ ได้แก่ แวนโกะห์ (Van Gogh) มาติส (Matisse) บงนาร์ด (Bonnard เซซาน (Cezanne) โกแกง (Gauguin) เซอราต์ (Seurat)

ศิลปะสมัยใหม่ในศตวรรษที่ 20
ลัทธิโฟวิสซึม เป็นศิลปะที่แสดงออกในเรื่องสีที่สดใสรุนแรงศิลปินที่สำคัญในลัทธินี้ ได้แก่ อองรี มาติส

ศิลปะนามธรรม เป็นศิลปะที่ไม่แสดงรูปทรงเหมือนจริง แต่แสดงเรื่องสีและพลังทางอารมณ์และความรู้สึก
ศิลปะคิวบิสม์ เป็นศิลปะกึ่งนามธรรม แสดงออกด้วยการเชื่อมโยงความสัมพันธ์กันของปริมาตร มีความงามตามหลักของสุนทรียศาสตร์อย่างแท้จริง ศิลปินผู้นำศิลปะคิวบิสม์ ได้แก่ ปิกาสโซ